เทคนิคสะพาย กระเป๋านักเรียนญี่ปุ่น ที่ผู้ปกครองจะต้องสอนคุณลูกๆ
การปวดหลัง เจ็บต้นคอ สาเหตุอาจมาจาก กระเป๋านักเรียน
อาการเจ็บก้านคอ บ่า
ไหล่ของนักเรียนอาจจะมีเหตุมาจากการแบกสะพายกระเป๋าที่ผิดวิธี แม้ว่าพ่อแม่จะเลือก
กระเป๋านักเรียนญี่ปุ่น Randoseru หรือว่ากระเป๋าสะพายยี่ห้ออื่นๆที่มีคุณภาพที่ดีหรือไม่ดีให้แก่พวกเขาก็ตาม
แต่การฝึกสอนให้พวกเขาคุ้นเคยวิธีการสะพายกระเป๋าอย่างถูกวิธีเป็นประเด็นสำคัญอย่างมากมาย
ไม่น้อยไปกว่ากันทีเดียว
ซึ่งเราอยากขอเสนอแนะเทคนิคสะพาย กระเป๋าเป้นักเรียนญี่ปุ่น เพื่อป้องกันมิให้เด็กๆ
ปวดเมื่อยหลังแด่คุณพ่อคุณแม่ได้เข้าใจกัน
1.น้ำหนักกระเป๋าเป้นักเรียน ไม่ควรเกิน ร้อยละ 10 ของน้ำหนักตัว
ทั้งนี้
กระเป๋านักเรียนญี่ปุ่น ซึ่งมีขนาดน้ำหนักเกินควร สายสะพายจะกดที่ส่วนบ่า
สันหลังรวมทั้งหัวไหล่ ทำให้เกิดอาการเกร็งมัดกล้ามเนื้อในบริเวณหลัง
ซึ่งอาจจะเป็นสาเหตุส่งผลให้เส้นโลหิตไม่อาจจะนำพาออกซิเจนไปเลี้ยงระบบกล้ามเนื้อแถบนั้นได้ดี
เด็กนักเรียน จะรู้สึกเมื่อยล้า ปวดหลัง ซึ่งถ้าเป็นบ่อยๆ จะมีผลทำให้สันหลังคดเสียบุคลิกภาพได้ ยิ่งไปกว่านี้ขนาดน้ำหนักซึ่งมากยังเป็นโทษในเวลาระหว่างเดินทางโดยสารรถเมล์
ในขณะไปสถานศึกษา ซึ่งเป็นอันตรายต่อชีวิตของเด็กนักเรียนได้อย่างสูงทีเดียว
ดังนี้ น้ำหนักของกระเป๋านักเรียนที่ดีตามหลักเกณฑ์ทั่วไปกำหนดว่า
เด็กควรแบกหามเป้ที่หนักไม่เกิน 10% ของน้ำหนักตัว ตัวอย่างเช่น ถ้าหากเด็กๆ หนัก
40 โล ก็สมควรบรรจุข้าวของใน กระเป๋านักเรียนญี่ปุ่น ไม่เกินกว่า 4 กิโล เป็นต้น
2.ท่วงท่าการสะพายกระเป๋าเป้
ทั้งนี้
รูปแบบการสะพายเป้ซึ่งไม่เหมาะ เช่น ต่ำกว่าเอว หรือสูงกว่าเอว หรือว่าการแบกระเป๋าเพียงข้างเดียว
ก็มีผลให้ปวดหลังได้เหมือนกัน ดังนี้ ผู้ปกครองต้องอบรมสั่งสอนท่วงท่าสะพายเป้
โดยอย่าให้เป้มีตำแหน่งที่สูงหรือว่าเตี้ยเกินควร
บั้นท้ายเป้สมควรอยู่บริเวณส่วนโค้งแผ่นหลังพอดี เหนือระดับเอวสัก 2 นิ้วคร่าวๆ
ขยับสายสะพายให้พอดี ขณะเดียวกันเตือนกับเด็กๆ ว่าไม่ควรแบก
กระเป๋านักเรียนญี่ปุ่น ฝั่งเดียว ขณะที่ ควรจะฝึกหัดให้เดินตัวตรง
ยืนวางน้ำหนักสองเท้า ไม่ก้าวเดินงอลำตัว
ไม่เล่นโทรศัพท์มือถือหรือว่าจับโปเก่ม่อนระหว่างที่ก้าวเดิน
พร้อมทั้งไม่ควรสะพายกระเป๋ารันโดะเซรุมากกว่า 2 ชม.
3.เลือกกระเป๋านักเรียน มีคุณภาพ
การตัดสินใจเลือกเป้ที่เซฟตี้
มีระบบรองรับสามารถช่วยสะพายก็อาจจะลดการเจ็บปวดหลังได้เช่นเดียวกัน
ควรตัดสินใจเลือกกระเป๋าขนาดพอเหมาะพอควรกับตัวของเด็กๆ
ขนาดสายเป้อย่าให้เล็กมากเกินไป เพราะว่าจะทำให้เจ็บหัวไหล่ ควรตัดสินใจเลือกสายขนาดประมาณ
6 เซนติเมตร เป็นต้นไป รวมทั้งต้องมีฟูกหรือฟองน้ำเสริมหนุนบริเวณหลัง
ซึ่งไม่เพียงแต่สามารถช่วยรับแผ่นหลังแล้ว ยังยับยั้งป้องกันสิ่งของมีคม ปากกา มีด
หรือไม่ก็เครื่องมือการเขียน ทิ่มแทงหลังนักเรียน โดยสรรพคุณเหล่านี้มีอยู่ใน
กระเป๋านักเรียนญี่ปุ่น เหล่านี้นั่นเอง
นอกจากนี้กระเป๋านักเรียนควรมีสายรัดบริเวณหน้าอก
เพื่อสามารถที่จะแจกจ่ายขนาดน้ำหนัก ไปยังส่วนต่างๆ พร้อมทั้งลดภาระของหลังด้วย
4.เลือกใส่แต่ของที่ต้องใช้งานเท่านั้น
ข้อสำคัญ คือ
การบรรจุแต่สิ่งของที่จำเป็นต้องใช้สะพายในแต่ละวันเท่านั้น ควรจะฝึกซ้อมให้ลูกๆ
จัดกระเป๋าตามตารางสอนได้
ซึ่งเป็นวิธีลดความหนักเบาของกระเป๋าได้มีประสิทธิภาพที่สุด
นอกจากนี้การจัดกระเป๋าคือการฝึกฝนระเบียบวินัย ฝึกการวางแผน
รวมทั้งฝึกความรอบคอบให้กับตัวเด็กนักเรียน ด้วย
กรรมวิธีเรียงเครื่องใช้ก็จำเป็นไม่แพ้กัน สมควรแจกจ่ายน้ำหนัก
กระเป๋านักเรียนญี่ปุ่น ให้เท่ากันสองฝั่ง
ของที่หนักสุดตัวอย่างเช่นพวกสมุดหนังสือเรียน ควรจะอยู่ใกล้หลังเรามากที่สุด
ขณะเดียวกันจัดเรียงสิ่งของไม่ให้กลิ้งไหลไปๆ มาๆ ในเป้
ทั้งนี้พ่อแม่หลายท่านไม่ใครใฝ่ใจประเด็น กระเป๋านักเรียน ของลูกๆ
เท่าที่ควร
นอกจากนี้สถานศึกษาได้ระบุให้ใช้งานเป้ที่ผลิตขึ้นมาเองอย่างไม่มีมาตรฐานก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งซึ่งส่งผลเสียแก่สุขภาพอีกทั้งพัฒนาการของเด็กๆ
ซึ่งโดยมากมักก่อให้เกิดอาการปวดเมื่อยที่หลัง กระดูกสันหลังรองรับน้ำหนักมาก
เมื่อยล้าที่บ่าหรือไหล่ มีผลกระทบอาจะทำให้สันหลังได้เหมือนกัน ดังนี้แล้ว
หันมาสนใจเลือกกระเป๋านักเรียนคุณภาพดีๆ อย่าง กระเป๋านักเรียนญี่ปุ่น
ให้เด็กๆกันดีกว่า
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น